วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของ "นม" ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

จำเป็นไหม? ที่ต้องกิน"นม"


       นม เป็นอาหารที่เหมาะกับคนทุกวัย เนื่องจากมีคุณค่าทางสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่มาก นอกจากนี้ยังมีนมเปรี้ยวซึ่งช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร การขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก อีกทั้งยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือดเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานนมพร่องมันเนย หรือ นมขาดมันเนยและควรหลีกเลี่ยงนมที่มีรสหวาน



สารอาหารในนมที่น่าสนใจ


โปรตีน

  • ในน้ำนมเกือบทั้งหมดประกอบด้วยโปรตีน กรดอะมิโน เป็นหลัก ซึ่งมีประโยชน์ต่อการสร้างเนื้อเยื่อ เลือด กระดูก และเอนไซม์ชนิดต่าง ๆ และในน้ำนมยังมีน้ำตาลที่มีชื่อว่า แล็คโตส (Lactose) อีกด้วย

วิตามิน

  • วิตามินเอ มีส่วนสำคัญต่อระบบสายตา และภูมิต้านทานโรค
  • วิตามินบี 1 ช่วยในการทำงานของหัวใจ ประสาท
  • วิตามินบี 2 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และช่วยในเรื่องของผิวหนัง
  • วิตามินบี 6 ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็ก 
  • วิตามินบี 12 สร้างเซลล์ในโพรงกระดูก และเม็ดเลือดแดง
  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง สร้างภูมิต้านทานโรค
  • วิตามินดี ก่อให้เกิดการป้องกันความผิดปกติของกล้ามเนื้อ และลดไขมันในเส้นเลือด

เกลือแร่

  • แคลเซียม เป็นสารอาหารจำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน 
  • ฟอสฟอรัส ช่วยในการทำงานของแคลเซียม 
  • โปตัสเซียม ควบคุมความสมดุลของเซลล์เกี่ยวกับความดันโลหิต
  • นอกจากนี้ยังมี โซเดียม แมกนีเซียม และเหล็ก อีกด้วย

ไขมัน

  • เป็นส่วนที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่นมจะให้ไขมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


ควรดืมนมวันละกี่แก้ว? (1 แก้ว เท่ากับ 200 cc)


       แน่นอนว่าในแต่ละช่วงวัยนั้นร่างกายมีความต้องการสารอาหารในปริมาณที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากการพัฒนาและการเจริญเติบโตแตกต่างกัน ทำให้อาหารที่ควรรับประทานมีความต่างกันด้วยทั้งในเรื่องของชนิดและปริมาณ

  • สำหรับวัยเด็ก (อายุ 1-12 ปี) ควรดื่มนมวันละ 3 แก้ว
  • วัยหนุ่มสาว (13-25 ปี) ควรดื่มนมวันละ 3-4 แก้ว 
  • วัยผู้ใหญ่ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวัยละ 2 แก้ว
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 3 แก้ว 


แล้วประโยชน์ของนมล่ะ? มีอะไรบ้าง?


ประโยชน์หลักๆของนมมีดังนี้

  1. ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  2. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  3. ช่วยทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
  4. ช่วยบำรุงหัวใจ ประสาท (วิตามินบี1)
  5. ช่วยในการทำงานของระบบเซลล์ผิวหนัง (วิตามินบี2)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Read more: http://tomatoessource.blogspot.com/2013/05/numbered-page-navigation.html#ixzz3UzSlDPrQ IT Blog Program Tools Tricks