อาหารคืออะไร
อาหาร คือ สิ่งที่รับประทานเข้าไป แล้วก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ในเรื่องของการเจริญเติบโต และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมไปถึงช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
อาหารที่ดีมีอะไรบ้าง
อาหารที่มีประโยชน์และดีต่อร่างกายนั้น มี 5 หมู่ ได้แก่
- หมู่ที่ 1 : นม ไข่ เนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง อาหารหมู่นี้จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- หมู่ที่ 2 : ข้าว แป้ง มัน เผือก และน้ำตาล อาหารหมู่นี้จะช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย
- หมู่ที่ 3 : พืชผักต่างๆ อาหารหมู่นี้จะช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ
- หมู่ที่ 4 : ผลไม้ต่างๆ อาหารหมู่นี้จะช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ เช่นเดียวกับหมู่ที่ 3
- หมู่ที่ 5 : น้ำมันและไขมันทั้งจากพืชและสัตว์ อาหารหมู่นี้จะให้พลังงาน และสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
ประเภทของอาหาร มีดังนี้
1.อาหารประเภทโปรตีน
พบใน เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ปลา ไก่ เนื้อ ไข่ นม ถั่ว เป็นต้น
ประโยชน์ของโปรตีน
- - ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- - ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเสมอ
- - ช่วยให้คนที่อยู่ในภาวะฟื้นไข้มีเรี่ยวแรง
- - ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
- - ในเด็กเล็ก จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการตามวัย อย่างเหมาะสม
2.อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
พบใน อาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว แป้ง เผือก มัน น้ำตาล น้ำผึ้ง เป็นต้น
ประโยชน์ของคาร์โบไฮเดรต
- - เป็นแหล่งพลังงานให้แก่ร่างกาย โดย 1 กรัมของคาร์โบไฮเดรต จะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่
- - ช่วยสงวนการใช้โปรตีนในร่างกาย ทำให้มีโปรตีนไว้ใช้ในยามจำเป็น เช่น ในช่วงเวลา เป็นไข้ เจ็บป่วย หรือขาดสารอาหาร เป็นต้น
- - ในรูปของน้ำตาล เมื่อรับประทานเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น
3.อาหารประเภทไขมัน
พบใน อาหารประเภทไขมัน เช่น น้ำมันทั้งจากพืชและสัตว์ เนยแข็ง เนื้อมะพร้าว เป็นต้น
ประโยชน์ของไขมัน
- - ช่วยให้พลังงาน เช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรต
- - ช่วยในการสร้างน้ำดี
- - เป็นตัวที่ละลายวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินไปใช้ได้
- - ช่วยบำรุงผิวพรรณไม่ให้แห้ง
4.อาหารประเภทที่ให้วิตามิน และเกลือแร่
พบใน ผัก ผลไม้ทั่วไป เช่น แตงกวา บวบ ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว แตงโม ส้ม เป็นต้น
ประเภทและประโยชน์ของวิตามิน
วิตามินเอ
- ช่วยในการบำรุงสายตา
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว
- ช่วยเสริมภูมิต้านทานโรค
วิตามินบี
- วิตามินบี 1 ป้องกันโรคเหน็บชา และช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท
- วิตามินบี 2 ป้องกัน รักษาอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปากและลิ้น และช่วยบำรุงผิวพรรณ และเส้นผม
- วิตามินบี 3 ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- วิตามินบี 5 ป้องกัน รักษารักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
- วิตามินบี 6 ป้องกันโรคทางประสาทและโรคผิวหนัง
- วิตามินบี 12 ป้องกันโรคโรคโลหิตจาง และช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว
วิตามินซี
- เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
- เสริมสร้างกระดูกและฟัน
- บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยในการสร้างผิวหนังให้มีความ ยืดหยุ่น เต่งตึง
วิตามินดี
- ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
วิตามินอี
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านริ้วรอย
- ช่วยในการทำงานของระบบสืบพันธุ์
- ช่วยในการพัฒนาเซลล์ประสาท
- ช่วยในการขยายหลอดเลือด
วิตามินเค
- ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด
- ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด
- ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ป้องกันการก่อตัวของนิ่วในไต
ฟอสฟอรัส
- เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบประสาทส่วนกลาง
- ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
แคลเซียม
- ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ช่วยในการทํางานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
เหล็ก
- เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง
- ป้องกันการเกิดโลหิตจาง
- เพิ่มความต้านทานต่อโรค
ทองแดง
- ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
- ช่วยในการสร้างฮีโมโกลบิน
สังกะสี
- เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ
โพแทสเซียม
- ลดความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ และของเหลวในเซลล์
แมกนีเซียม
- ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- บรรเทาอาการเกี่ยวกับโรคเครียด
- ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ
5.อาหารประเภทเครื่องดื่ม
ประโยชน์ของน้ำดื่ม
- - ช่วยป้องกันผิวแห้ง ทําให้ผิวสดใส เต่งตึง
- - ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
- - มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย
- - ช่วยในการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด
- - เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสมอง
*การรับประทานอาหารให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายนั้น ควรให้ได้สัดส่วนตาม ธงโภชนาการ
ธงโภชนาการคืออะไร
ธงโภชนาการ คือ เครื่องมือที่ช่วยอธิบายและทำความเข้าใจหลักโภชนบัญญัติ 9 ประการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ โดยกำหนดเป็นภาพ "ธงปลายแหลม" แสดงกลุ่มอาหารและสัดส่วนการกินอาหารในแต่ละกลุ่ม
โดยอธิบายได้ดังนี้
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
- กลุ่มอาหารที่บริโภคจากมากไปน้อย แสดงด้วยพื้นที่ในภาพ
- อาหารที่หลากหลายชนิดในแต่ละกลุ่ม สามารถเลือกกินสลับเปลี่ยน หมุนเวียนได้ภายในกลุ่มเดียวกัน ทั้งกลุ่มผัก กลุ่มผลไม้ และกลุ่มเนื้อสัตว์สำหรับกลุ่มข้าวแป้งให้กินข้าวเป็นหลัก อาจสลับกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งเป็นบางมื้อ
- ปริมาณอาหาร บอกจำนวนเป็นหน่วยครัวเรือน เช่น ทัพพี กินข้าว แก้ว และผลไม้กำหนดเป็นส่วน
- ชนิดของอาหารที่ควรกินปริมาณน้อยเท่าที่จำเป็น คือ กลุ่มน้ำมัน น้ำตาล และเกลือ
"กินอาหารให้หลากหลาย ในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น