มะเขือเทศ
ภาพจาก commons.wikimedia.org |
เหล็ก และยังมีสารจำพวก ไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ และเบต้าแคโรทีน อีกด้วย
ไลโคปีน(Lycopene)คืออะไร?
ไลโคปีนเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอย พบมากใน ผักและผลไม้ที่มีสีแดง โดยเฉพาะในมะเขือเทศ สารไลโคปีนช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันการผิดปรกติของเซลล์ผิวหนัง ยับยั้งการเกิดอนุมูลอสระได้อีกด้วย
กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน(Lycopene) สูง?
ควรรับประทานมะเขือเทศสดหรือมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงอาหารแล้ว เพราะ ความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ไลโคปีนถูกร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่า นอกจากนี้ความร้อนและกระบวนการต่างๆในการผลิตผลิตภัณฑ์มะเขือเทศยังทำให้ไลโคปีนเปลี่ยนรูปแบบเป็นชนิดที่ละลายได้ดีขึ้น
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
- มีส่วนชวยบำรุงสายตา
- ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
- ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกาย
- ช่วยในการรักษาสิวและช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า
- ช่วยรักษาอาการ เลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- ช่วยในระบบทางเดินอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม
- มะเขือเทศพลังงาน 18 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
- น้ำตาล 2.6 กรัม
- เส้นใย 1.2 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- โปรตีน 0.9 กรัม
- น้ำ 94.5 กรัม
- วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5%
- เบต้าแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4%
- ลูทีน และ ซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
- วิตามินบี1 0.037 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี3 0.594 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี6 0.08 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17%
- วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8%
- ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5%
- ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
รู้อย่างนี้แล้วเพื่อนๆยังจะเขี่ยมะเขือเทศออกจากจานอีกไหม?...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น